"อัคคีปราการ" ราคาพุ่งชนซิลลิ่ง 2.96 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือน ผู้บริหารคาดนักลงทุนเชื่อมั่นหลังให้ข้อมูลงาน "Mai Forum 2016" วางเป้าอนาคตรุกตลาดอาเซียน มองปีนี้ปริมาณกำจัดขยะน่าจะเพิ่มกว่า 20% จากปีก่อนที่ 1 แสนตัน ดันกำไรนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 กูรูเทคนิคแนะใครซื้อกลับบ้านวานนี้ ถ้าวันนี้วิ่งต่อควรขายทำกำไร รอดูทิศทางลมแถว 2.70 บาท ส่วนพื้นฐาน คำนวณคร่าวๆ หากกำไรปีนี้โต 15% ให้ P/E ที่ 17 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 2.55 บาท บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP วานนี้เรียกแขกขึ้นรถขนขยะได้มากพอสมควร ราคาปิดชนซิลลิ่งที่ 2.96 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือน นับจากเดือน ก.ย.58 ที่ขึ้นไปสูงสุด 2.94 บาท AKP เข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อเดือน ก.พ.ปี 56 ด้วยราคาไอพีโอ 2.00 บาท และเคยถูกลากขึ้นไปสูงสุด 7.70 บาทตั้งแต่ปีแรกของการเทรด ก่อนที่ราคาจะผันผวนตามหุ้นแม่ คือ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 51% ซึ่งวานนี้ BWG ก็บวกไปถึง 9% รับกระแสข่าวบวกหลัง ผู้ว่า กฟผ. คนใหม่ประกาศนโยบายมุ่งเน้นพลังงานทดแทน ราคาหุ้น AKP ที่พุ่งขึ้นไปชนซิลลิ่งวานนี้ เป็นจังหวะที่พอเหมาะพอดี กับปัจจัยบวกที่เข้ามาสนับสนุน โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา "วันชัย เหลืองวิริยะ" กรรมการผู้จัดการ AKP ไปให้ข้อมูลในงาน “ Mai Forum 2016 : มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 3” ซึ่งทีมบริหารให้ข้อมูลเรื่องธุรกิจแบบจัดเต็ม!! AKP ประกอบธุรกิจบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม ( เตาเผาขยะอุตสาหกรรม ) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งจัดสร้างโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทฯ ได้สัมปทาน 20 ปี ( ปี 2551-2571 ) และเมื่อสัญญาสัมปทานเดิมสิ้นสุดลง AKP มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ต่ออายุสัญญากับกระทรวงอุตสาหกรรมได้อีก 10 ปี ดังนั้น รายได้หลักจึงมาจาก " ค่าบริการบำบัดและกำจัดของเสียด้วยวิธีเผาทำลาย" ที่เหลือเป็นรายได้ค่าขนส่ง และด้วยการที่ได้รับสัมปทานมา บริษัทฯ จึงเป็นผู้ประกอบการ 1 เดียวในไทยที่มีเตากำจัดกากอุตสาหกรรมที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ด้านความสามารถในการทำกำไร นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai พบว่า มีกำไรเฉลี่ยปีละ 50 ล้านบาท และมีรายได้เฉลี่ยปีละ 500 ล้านบาท ราคาหุ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเทรดที่ P/E ช่วง 16-18 เท่า อัตรากำไรสุทธิดีต่อเนื่อง 3 ปี (56-58) อยู่ที่ 8.57%, 8.94% และ 10.36% ตามลำดับ อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ในระดับต่ำที่ 0.26 เท่า ซึ่งหากบริษัทฯ จะขยายธุรกิจ เช่น ซื้อรถเพิ่ม หรือขยายพื้นที่เก็บขยะ ก็ยังมีความสามารถกู้เงินได้อีกมาก รวมทั้งยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด สิ้นงวดไตรมาส 1/59 อยู่อีกประมาณ 200 ล้านบาท "วันชัย เหลืองวิริยะ" กล่าวเพิ่มเติมกับ " สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย " ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของบริษัทฯ คือ การไปให้ข้อมูลธุรกิจในงาน Mai Forum 2016 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ค.) เชื่อว่า คงทำให้นักลงทุนได้ข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจลงทุนมากพอสมควร ซึ่งแนวโน้มธุรกิจปีนี้สดใส ไตรมาส 2/59 ก็จะดีต่อเนื่องจากไตรมาส1/59 สะท้อนจากปริมาณ Backlog ของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้น ตามปริมาณกากขยะอุตสาหกรรม โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/59 บริษัทฯ มี Backlog ซึ่งในที่นี้คือ " ปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรมที่รอถูกทำลายโดยเตาเผาของบริษัท " จำนวน 75,000 ตัน และบริษัทเชื่อว่า จะมีลูกค้ารายใหม่ๆ ทยอยขออนุญาตกรมโรงงานฯ ให้กำจัดกากชนิดพิเศษเพิ่มอีก นั่นหมายความว่า บริษัทฯ ก็จะมี Backlog เพิ่มขึ้น!!! จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ "วันชัย" คาดว่า ปี59 นี้ AKP จะสามารถเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี58 ที่ได้เผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายทั้งสิ้น 106,699 ตัน พร้อมคาดอัตรากำไรสุทธิ ( Net Profit Margin ) ปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 10.36% โดยราคาค่ากำจัดขึ้นอยู่กับความอันตรายของกากอุตสาหกรรม ค่าบริการกำจัดกากขยะถัวเฉลี่ยต่อตันต่ำสุด 4,000-5,000 บาท/ตัน และสูงสุดที่ 150,000 บาท/ตัน นั่นหมายความว่า ปีนี้ AKP จะทำกำไรนิวไฮเป็นปีที่ 3 ต่อจากปี 57-58 ที่มีกำไร 49 ล้านบาท และ 55 ล้านบาทตามลำดับ และกำไรน่าจะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนพอสมควร ตามปริมาณการกำจัด "ขยะอุตสาหกรรม" ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี โดยไตรมาสแรกตุนกำไรแล้ว 12.25 ล้านบาท ส่องอนาคต AKP บริษัทฯ ไม่ได้ต้องการแค่รับงานในประเทศ แต่ยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าสู่ AEC เพราะในกลุ่ม AEC มีเตาเผากากของเสียอันตรายเฉพาะในไทยเท่านั้น!! พร้อมตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าใหม่ 30% ต่อปี พร้อมกับมีเป้าหมายลดต้นทุนด้วยการอาศัยของเสียอันตรายที่มีค่าพลังงาน นำมาทดแทนแก๊สธรรมชาติ (NG) ในระบบเตาเผา นอกจากนี้ ยังมองโอกาสเติบโตมีอีกมาก สืบเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมปี 2558-2562 มุ่งเน้นให้โรงงานที่ยังไม่เข้าระบบการจัดการของเสีย โดยมีโรงงานอุตสาหกรรม 68,000 แห่ง ปัจจุบันเข้าสู่ระบบเพียง 7-8% เท่านั้น !! หันกลับมามองที่ราคาหุ้น AKP เป็นบริษัทไซส์เล็กที่นักวิเคราะห์ไม่ได้ให้ความสนใจ ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยก็ไม่มากนักเพียง 3,600 ราย หากเทียบกับหุ้นแม่ BWG ซึ่งเป็นตัวที่ได้รับความนิยมมากกว่า แต่วานนี้ AKP ถูกกระชากขึ้นไปอย่างแรง ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะปรับขึ้นตาม BWG ในช่วงที่ข่าวสารข้อมูลในช่วงนี้สนับสนุน ประกอบกับจำนวนหุ้น AKP นั้นก็มีน้อยซื้อขายวันละไม่ถึง 1 ล้านหุ้น แต่ด้วยราคาที่พุ่งอย่างแรงและรวดเร็ว ในด้านกลยุทธ์การลงทุน หากใครขึ้นรถไปวานนี้ วันนี้ถ้าวิ่งต่อก็ควรหาจังหวะทำกำไร โดย "วิกิจ ถิรวรรณรัตน์" ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง แนะนำไว้ว่า ".. ถ้าวันนี้ (5 ก.ค.) เปิดกระโดดแนะนำขายทำกำไรระยะสั้น สำหรับคนที่ซื้อได้เมื่อวาน และรอย่อแถวๆ 2.70 บาทเป็นแนวรับ รอตั้งหลักใหม่ " ส่วน "อภิสิทธิ์ ลิมป์ธำรงกุล" ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เคเคเทรด ให้แนวต้าน 3.00 บาท แนวรับ 2.70 บาท เล่นได้ตามกรอบที่ให้นี้ ส่วนสตอรี่อันใกล้นี้ คือผลประกอบการไตรมาส 2/59 ซึ่งผู้บริหารเชื่อมั่นว่าจะดีกว่าไตรมาสแรกแน่นอน และทั้งปีก็ดีกว่าปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิได้ 55 ล้านบาท ตามเทรนด์ของขยะอันตรายในโรงงานอุตสาหกรรมที่นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น!! ภาพรวมทั้งปีของ AKP ลองคำนวณคร่าวๆ หากกำไรสุทธิปีนี้โต 15% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลัง กำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ราว 63 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 0.15 บาท ให้ P/E 17 เท่า จะได้ราคาพื้นฐาน 2.55 บาท ซึ่งหากเทียบกับราคาล่าสุดที่เกือบ 3 บาท ก็นับว่าเกินพื้นฐานแล้ว เว้นเสียแต่ว่ากำไรปีนี้จะเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังไปมาก หรือมีสตอรี่เด็ดที่ดันราคาได้ต่อ ในทางกลับกัน หากไม่มีอะไรในกอใผ่ราคาหุ้นอาจพร้อมกลับทิศได้ทันที!!!
|