ข่าวสารล่าสุด

   AKP  ใจดีจ่ายปันผลหุ้นละ 0.032 บาท หลังปี 62 มีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท พร้อมร่วมสนับสนุนการจัดการขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธี เปิดจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ในงาน CommartXPro 2020 เดินหน้ากำจัดตามกระบวนการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม
  นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP เปิดเผยผลประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดสำหรับผลประกอบการงวดปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.032 บาท โดยกำหนดจ่ายวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 หลังประกาศผลประกอบการปี 2562 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562 มีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.077 บาท
  ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 วันไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 และได้กำหนดให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้น 24 เมษายน 2563 เพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าว โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวันที่ 17 มีนาคม 2563
  นายวันชัย กล่าวต่อว่า ล่าสุด อัคคีปราการ ได้ร่วมมือกับ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดงานคอมมาร์ต เพื่อรับกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ได้รับการรับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ภายในงาน CommartXPro 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2563 เวลา 10.00-20.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
  “อัคคีปราการ มีเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย ด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เรายินดีให้การสนับสนุนการจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์เหลือทิ้งด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และสายสื่อสารทุกประเภท เราจึงยินดีที่ได้มีโอกาสให้การสนับสนุนการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีภายในงาน CommartXPro 2020 ด้วยการเปิดจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ บริเวณด้านหน้า Hall 98 ไบเทค บางนา ซึ่งเราจะนำไปจัดการอย่างถูกวิธี ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม” นายวันชัย กล่าว









ลักษณะธุรกิจของ AKP
ได้รับสิทธิเข้าบริหารและประกอบการศูนย์บริหาร จัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จังหวัดสมุทรปราการ (ศูนย์ฯ) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นเวลา 20 ปีนับแต่วันลงนามในสัญญา คือ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 และสิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2571 และมีสิทธิขอให้ต่ออายุสัญญาได้อีก 10 ปี โดยเป็นการ spin off มาจาก BWG